Live Your Life Instyle
วันเสาร์ที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2559
วันพฤหัสบดีที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2558
รีวิว Apple Music บริการสตรีมเพลงตัวใหม่จากแอปเปิ้ล
Review Apple Music บริการสตรีมเพลงตัวใหม่จากแอปเปิ้ล
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาแอปเปิ้ลได้ปล่อยอัพเดต iOS เวอร์ชั่น 8.4 ให้ผู้ใช้งาน iPhone, iPad และ iPod ได้ดาวน์โหลดไปติดตั้ง ท่านที่ติดตามข่าวไอทีคงพอทราบว่าอัพเดตตัวนี้ มีผลิตภัณฑ์ใหม่ของแอปเปิ้ลออกมาด้วย นั่นคือ Apple Music บริการฟังเพลงออนไลน์ผ่านระบบสตรีมมิ่งได้ไม่อั้น โดยในไทยมีอัตราค่าบริการอยู่ที่ $4.99 (ประมาณ 170 บาท) ต่อเดือน และนอกจากเพลงแล้ว Apple Music ยังเปิดสถานีวิทยุ Beats 1 ให้สมาชิกได้ฟังอีกด้วย
จากที่ผมได้ลองใช้มา 1 วันเต็ม ผมเลยมาทำการรีวิวสั้นๆ ให้ฟังครับ
- เพลงไทย ใน Apple Music มีเพลงไทยค่อนข้างน้อย ณ ตอนนี้ยังไม่มีเพลงของค่ายดังอย่าง RS และ Grammy หากท่านคิดจะสมัครใช้บริการเพื่อฟังแค่เพลงไทยผมแนะนำให้รอก่อนครับ
- เพลงต่างประเทศ จัดว่าคุ้มกับเงินร้อยกว่าบาทมากเพราะมีให้เลือกฟังแทบไม่หวาดไม่ไหว ถึงจะไม่มีเพลงครบเท่าใน iTunes Store ก็ตาม
- ความไหลลื่น ผมได้ลองทั้งฟังผ่านอินเตอร์เนตบ้านและผ่าน 3G พบว่าหายห่วงครับ โหลดเร็วและไม่กิน data มากอย่างที่คิด ส่วนคุณภาพเสียงจัดว่าอยู่ในระดับที่พอไหว
- สถานีวิทยุ Beats 1 ผมประทับใจมาก เพลงที่เปิดเป็นเพลงชั้นเยี่ยมทุกเพลง ฟังเพลินๆตอนขับรถแปปเดียวถึงบ้านแล้ว
- ระบบแนะนำเพลง แอปเปิ้ลทำได้ดีครับ มันฉลาดจนเดาว่าผมชอบฟังเพลงอะไรได้ตรงเป๊ะ
สรุป แอปเปิ้ลทำการบ้านมาได้ดีครับ ทั้งบริการ Apple Music และ ราคาเปิดตัวในแต่ละประเทศ ท่านที่เป็นคอเพลงฝรั่งผมบอกได้เลยว่าคุ้ม แต่สำหรับในไทยถ้าเพลงไทยยังน้อยแบบนี้อาจจะเกิดยากหน่อย
ตอนนี้ Apple Music เปิดให้ทดลองใช้ฟรี 3 เดือน ใครที่ใช้ iPhone, iPad หรือ iPod อยู่ห้ามพลาดครับ
หน้าเว็บ Apple Music คลิกเพื่อดูรูปใหญ่ |
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาแอปเปิ้ลได้ปล่อยอัพเดต iOS เวอร์ชั่น 8.4 ให้ผู้ใช้งาน iPhone, iPad และ iPod ได้ดาวน์โหลดไปติดตั้ง ท่านที่ติดตามข่าวไอทีคงพอทราบว่าอัพเดตตัวนี้ มีผลิตภัณฑ์ใหม่ของแอปเปิ้ลออกมาด้วย นั่นคือ Apple Music บริการฟังเพลงออนไลน์ผ่านระบบสตรีมมิ่งได้ไม่อั้น โดยในไทยมีอัตราค่าบริการอยู่ที่ $4.99 (ประมาณ 170 บาท) ต่อเดือน และนอกจากเพลงแล้ว Apple Music ยังเปิดสถานีวิทยุ Beats 1 ให้สมาชิกได้ฟังอีกด้วย
จากที่ผมได้ลองใช้มา 1 วันเต็ม ผมเลยมาทำการรีวิวสั้นๆ ให้ฟังครับ
- เพลงไทย ใน Apple Music มีเพลงไทยค่อนข้างน้อย ณ ตอนนี้ยังไม่มีเพลงของค่ายดังอย่าง RS และ Grammy หากท่านคิดจะสมัครใช้บริการเพื่อฟังแค่เพลงไทยผมแนะนำให้รอก่อนครับ
- เพลงต่างประเทศ จัดว่าคุ้มกับเงินร้อยกว่าบาทมากเพราะมีให้เลือกฟังแทบไม่หวาดไม่ไหว ถึงจะไม่มีเพลงครบเท่าใน iTunes Store ก็ตาม
- ความไหลลื่น ผมได้ลองทั้งฟังผ่านอินเตอร์เนตบ้านและผ่าน 3G พบว่าหายห่วงครับ โหลดเร็วและไม่กิน data มากอย่างที่คิด ส่วนคุณภาพเสียงจัดว่าอยู่ในระดับที่พอไหว
Beats 1 คลิกเพื่อดูรูปใหญ่ |
- สถานีวิทยุ Beats 1 ผมประทับใจมาก เพลงที่เปิดเป็นเพลงชั้นเยี่ยมทุกเพลง ฟังเพลินๆตอนขับรถแปปเดียวถึงบ้านแล้ว
- ระบบแนะนำเพลง แอปเปิ้ลทำได้ดีครับ มันฉลาดจนเดาว่าผมชอบฟังเพลงอะไรได้ตรงเป๊ะ
สรุป แอปเปิ้ลทำการบ้านมาได้ดีครับ ทั้งบริการ Apple Music และ ราคาเปิดตัวในแต่ละประเทศ ท่านที่เป็นคอเพลงฝรั่งผมบอกได้เลยว่าคุ้ม แต่สำหรับในไทยถ้าเพลงไทยยังน้อยแบบนี้อาจจะเกิดยากหน่อย
ตอนนี้ Apple Music เปิดให้ทดลองใช้ฟรี 3 เดือน ใครที่ใช้ iPhone, iPad หรือ iPod อยู่ห้ามพลาดครับ
วันพุธที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2558
Hongkong Disneyland vs. Ocean Park
เที่ยวฮ่องกงครั้งแรกเลือกไปสวนสนุกไหนดีระหว่าง Disneyland กับ Ocean Park
จากประสบการณ์ที่ผมได้เดินทางไปมาหลายประเทศ ผมคิดว่าฮ่องกงเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่นักเดินทางต้องไปเยือนให้ได้สักครั้ง เหตุผลก็คือแหล่งท่องเที่ยวในฮ่องกงถึงแม้จะไม่เยอะเท่ากับที่อื่น แต่มันมีความหลากหลายและสมบูรณ์แบบในตัว เช่น หากคุณเป็นนักเดินทางที่ชอบศิลปวัฒนธรรมฮ่องกงก็มีวัดและพิพิธภัณฑ์ชั้นดีให้คุณได้ไปสัมผัส หรือคุณเป็นนักชิมที่นี่ก็มีร้านอาหารระดับติดดาวมิชลินหลายร้านให้คุณได้ลิ้มลอง หรือคุณเป็นขาช็อปฯฮ่องกงก็ขึ้นชื่ออยู่แล้วในด้านนี้ เรียกว่าอยากเที่ยวแบบไหนแนวไหนมาที่ฮ่องกงมีครบหมด
ด้วยความหลากหลายของแหล่งท่องเที่ยวนี้เอง ทำให้นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาที่ฮ่องกงครั้งแรกหลายคนสับสนว่าควรวางแผนเที่ยวอย่างไรดี ให้สามารถเก็บจุดสำคัญได้ครบ ที่ไหนน่าไป จุดไหนห้ามพลาด โดยเฉพาะสวนสนุก ที่ฮ่องกงนั้นมีสวนสนุกที่ใหญ่ๆอยู่ 2 ที่ คือ Ocean Park และ Disneyland ซึ่งน้อยคนที่จะเลือกไปทั้งสองที่เนื่องด้วยการเที่ยวสวนสนุกต้องเสียเวลาไปทั้งวันและค่าตั๋วผ่านประตูก็ราคาสูงไม่น้อย
ในบทความนี้ผมเลยมาช่วยคุณตัดสินใจว่าจะเลือกไปที่ไหนดี โดยการเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียแต่ละที่แบบวัดกันไปเลยหมัดต่อหมัด
ยกที่ 1 การเดินทาง
Disneyland สามารถไปถึงได้ด้วยรถไฟฟ้า
Ocean Park ต้องนั่งรถเมล์หรือรถแท็กซี่ไป
ยกแรกผมให้ Disneyland ชนะไปด้วยความสะดวกในการเดินทาง
ยกที่ 2 เครื่องเล่น
Disneyland เครื่องเล่นไม่เยอะและไม่หวาดเสียวมากนักเหมาะกับเด็กและผู้มีอายุ
Ocean Park เครื่องเล่นจะมีทั้งแบบ Softcore เบาๆ และแบบ Hardcore ที่เหมาะกับวัยรุ่น
ยกนี้ผมให้ Ocean Park ชนะจากความหลากหลายของเครื่องเล่น
ยกที่ 3 กิจกรรมอื่นๆ
Disneyland ทุกคนคงทราบดีอยู่แล้วว่าจุดเด่นของดิสนี่ย์แลนด์จะใช้ตัวการ์ตูนของดิสนี่ย์มาทำการแสดงโชว์และทำกิจกรรมต่างๆร่วมกับนักท่องเที่ยว เช่น การเดินขบวนพาเหรด การถ่ายรูปกับตัวการ์ตูน ใครเป็นแฟนดิสนี่ย์ก็พลาดกิจกรรมเหล่านี้ไม่ได้อยู่แล้ว
Ocean Park กิจกรรมที่มีก็ไม่น้อยหน้าเพราะนอกจากสวนสนุกแล้วที่โอเชี่ยน ปาร์คยังมีสวนสัตว์ สวนน้ำและอควาเรี่ยมขนาดใหญ่ให้ได้เดินเที่ยว ซึ่งสวนสัตว์ที่ Ocean Park สร้างความตื่นตาตื่นใจให้ผมได้พอสมควรเพราะสัตว์ที่จัดแสดงเป็นสัตว์เขตหนาวที่หาดูที่ไหนไม่ได้ง่ายๆ อย่างจิ้งจอกหิมะ เพนกวิ้น แมวน้ำ เป็นต้น
ยกที่สามผมให้เสมอกัน แล้วแต่ความชอบส่วนบุคคล
ยกที่ 4 ปริมาณนักท่องเที่ยว
เสมอกัน ทั้ง 2 ที่คนเยอะมากไม่ต่างกัน โดยเฉพาะวันหยุดแต่ละเครื่องเล่นอาจต้องใช้เวลาต่อคิวนานกว่าครึ่งชั่วโมง
ยกที่ 5 ความสวยงาม
Disneyland ชนะขาดเพราะใหม่กว่าและมีจุดให้ถ่ายรูปเยอะกว่า Ocean Park มาก
สรุป
นับคะแนน 5 ยก Disneyland ชนะ Ocean Park ไปได้อย่างเฉียดฉิว
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคุณต้องสำรวจตัวคุณและคนที่ไปด้วยก่อนว่ามีความชอบแบบไหน
หากกลุ่มคุณเป็นวัยรุ่นชอบความหวาดเสียว ไป Ocean Park สนุกกว่าแน่นอน
แต่ถ้ากลุ่มคุณเป็นแฟนการ์ตูนดิสนีย์หรือชื่นชอบการถ่ายรูป Disneyland ย่อมเหมาะกับคุณมากกว่า
จากประสบการณ์ที่ผมได้เดินทางไปมาหลายประเทศ ผมคิดว่าฮ่องกงเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่นักเดินทางต้องไปเยือนให้ได้สักครั้ง เหตุผลก็คือแหล่งท่องเที่ยวในฮ่องกงถึงแม้จะไม่เยอะเท่ากับที่อื่น แต่มันมีความหลากหลายและสมบูรณ์แบบในตัว เช่น หากคุณเป็นนักเดินทางที่ชอบศิลปวัฒนธรรมฮ่องกงก็มีวัดและพิพิธภัณฑ์ชั้นดีให้คุณได้ไปสัมผัส หรือคุณเป็นนักชิมที่นี่ก็มีร้านอาหารระดับติดดาวมิชลินหลายร้านให้คุณได้ลิ้มลอง หรือคุณเป็นขาช็อปฯฮ่องกงก็ขึ้นชื่ออยู่แล้วในด้านนี้ เรียกว่าอยากเที่ยวแบบไหนแนวไหนมาที่ฮ่องกงมีครบหมด
ด้วยความหลากหลายของแหล่งท่องเที่ยวนี้เอง ทำให้นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาที่ฮ่องกงครั้งแรกหลายคนสับสนว่าควรวางแผนเที่ยวอย่างไรดี ให้สามารถเก็บจุดสำคัญได้ครบ ที่ไหนน่าไป จุดไหนห้ามพลาด โดยเฉพาะสวนสนุก ที่ฮ่องกงนั้นมีสวนสนุกที่ใหญ่ๆอยู่ 2 ที่ คือ Ocean Park และ Disneyland ซึ่งน้อยคนที่จะเลือกไปทั้งสองที่เนื่องด้วยการเที่ยวสวนสนุกต้องเสียเวลาไปทั้งวันและค่าตั๋วผ่านประตูก็ราคาสูงไม่น้อย
ในบทความนี้ผมเลยมาช่วยคุณตัดสินใจว่าจะเลือกไปที่ไหนดี โดยการเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียแต่ละที่แบบวัดกันไปเลยหมัดต่อหมัด
ยกที่ 1 การเดินทาง
Disneyland สามารถไปถึงได้ด้วยรถไฟฟ้า
Ocean Park ต้องนั่งรถเมล์หรือรถแท็กซี่ไป
ยกแรกผมให้ Disneyland ชนะไปด้วยความสะดวกในการเดินทาง
ยกที่ 2 เครื่องเล่น
Disneyland เครื่องเล่นไม่เยอะและไม่หวาดเสียวมากนักเหมาะกับเด็กและผู้มีอายุ
Ocean Park เครื่องเล่นจะมีทั้งแบบ Softcore เบาๆ และแบบ Hardcore ที่เหมาะกับวัยรุ่น
ยกนี้ผมให้ Ocean Park ชนะจากความหลากหลายของเครื่องเล่น
ยกที่ 3 กิจกรรมอื่นๆ
Disneyland ทุกคนคงทราบดีอยู่แล้วว่าจุดเด่นของดิสนี่ย์แลนด์จะใช้ตัวการ์ตูนของดิสนี่ย์มาทำการแสดงโชว์และทำกิจกรรมต่างๆร่วมกับนักท่องเที่ยว เช่น การเดินขบวนพาเหรด การถ่ายรูปกับตัวการ์ตูน ใครเป็นแฟนดิสนี่ย์ก็พลาดกิจกรรมเหล่านี้ไม่ได้อยู่แล้ว
Ocean Park กิจกรรมที่มีก็ไม่น้อยหน้าเพราะนอกจากสวนสนุกแล้วที่โอเชี่ยน ปาร์คยังมีสวนสัตว์ สวนน้ำและอควาเรี่ยมขนาดใหญ่ให้ได้เดินเที่ยว ซึ่งสวนสัตว์ที่ Ocean Park สร้างความตื่นตาตื่นใจให้ผมได้พอสมควรเพราะสัตว์ที่จัดแสดงเป็นสัตว์เขตหนาวที่หาดูที่ไหนไม่ได้ง่ายๆ อย่างจิ้งจอกหิมะ เพนกวิ้น แมวน้ำ เป็นต้น
ยกที่สามผมให้เสมอกัน แล้วแต่ความชอบส่วนบุคคล
ยกที่ 4 ปริมาณนักท่องเที่ยว
เสมอกัน ทั้ง 2 ที่คนเยอะมากไม่ต่างกัน โดยเฉพาะวันหยุดแต่ละเครื่องเล่นอาจต้องใช้เวลาต่อคิวนานกว่าครึ่งชั่วโมง
ยกที่ 5 ความสวยงาม
Disneyland ชนะขาดเพราะใหม่กว่าและมีจุดให้ถ่ายรูปเยอะกว่า Ocean Park มาก
สรุป
นับคะแนน 5 ยก Disneyland ชนะ Ocean Park ไปได้อย่างเฉียดฉิว
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคุณต้องสำรวจตัวคุณและคนที่ไปด้วยก่อนว่ามีความชอบแบบไหน
หากกลุ่มคุณเป็นวัยรุ่นชอบความหวาดเสียว ไป Ocean Park สนุกกว่าแน่นอน
แต่ถ้ากลุ่มคุณเป็นแฟนการ์ตูนดิสนีย์หรือชื่นชอบการถ่ายรูป Disneyland ย่อมเหมาะกับคุณมากกว่า
วันอังคารที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2558
มาสร้างเว็บกับ Sway กันเถอะ
รู้จักกับ Sway
Sway คือ แอพสำหรับสร้างเว็บกึ่งสำเร็จรูปตัวใหม่ของทาง Microsoft Office
การสร้างเว็บผ่าน Sway จะใช้หลักที่เข้าใจได้ง่ายคือ การลาก วาง แชร์
โดยเริ่มจากการ "ลาก" เอาข้อมูลจากแหล่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น รูปถ่ายจากโทรศัพท์มือถือ, วิดีโอบน Youtube หรือข้อความใน Facebook มาวางบนพื้นที่เว็บที่เราสร้างไว้ แล้วตัวแอพจะช่วยจัดวางรูปแบบบนหน้าเว็บให้เราเสร็จสรรพ จากนั้นเราสามารถแชร์เว็บที่สร้างลงโซเซียลหรือนำขึ้นออนไลน์ได้ทันที หากยังนึกภาพไม่ออกลองนึกภาพการใช้งานโปรแกรม Frontpage หรือ Powerpoint ดูก็ได้ครับ
ข้อดีของ Sway คือ เราสามารถเห็นเว็บที่เราสร้างขึ้นได้แบบเรียลไทม์โดยไม่ต้องไปแตะโค๊ดเลย และตัวแอพยังช่วยจัดวางเลย์เอาท์ของเว็บและยังมีธีมให้เลือกปรับแต่งมากมาย
Sway สามารถใช้ได้ทั้งบนเว็บเบราเซอร์และแอพบน iOS, Android แต่ตอนนี้ Sway ยังอยู่ในสถานะ Preview ใครอยากทดลองก่อนใช้ก็สามารถไปสมัครที่ sway.com ได้เลยครับ
Sway คือ แอพสำหรับสร้างเว็บกึ่งสำเร็จรูปตัวใหม่ของทาง Microsoft Office
การสร้างเว็บผ่าน Sway จะใช้หลักที่เข้าใจได้ง่ายคือ การลาก วาง แชร์
โดยเริ่มจากการ "ลาก" เอาข้อมูลจากแหล่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น รูปถ่ายจากโทรศัพท์มือถือ, วิดีโอบน Youtube หรือข้อความใน Facebook มาวางบนพื้นที่เว็บที่เราสร้างไว้ แล้วตัวแอพจะช่วยจัดวางรูปแบบบนหน้าเว็บให้เราเสร็จสรรพ จากนั้นเราสามารถแชร์เว็บที่สร้างลงโซเซียลหรือนำขึ้นออนไลน์ได้ทันที หากยังนึกภาพไม่ออกลองนึกภาพการใช้งานโปรแกรม Frontpage หรือ Powerpoint ดูก็ได้ครับ
ข้อดีของ Sway คือ เราสามารถเห็นเว็บที่เราสร้างขึ้นได้แบบเรียลไทม์โดยไม่ต้องไปแตะโค๊ดเลย และตัวแอพยังช่วยจัดวางเลย์เอาท์ของเว็บและยังมีธีมให้เลือกปรับแต่งมากมาย
วันศุกร์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2558
Daum maps เว็บแอพแผนที่เกาหลีที่ดีที่สุด
Daum maps เว็บแอพแผนที่เกาหลีที่ดีที่สุด
หลายท่านที่เคยไปเที่ยวเกาหลีหรือกำลังวางแผนว่าจะไป คงทราบดีว่าเว็บหรือแอพพลิเคชั่นแผนที่ของเกาหลี มันช่างมีข้อมูลน้อยซะเหลือเกินไม่ว่าจะเป็น Google maps หรือ Apple maps โดยเฉพาะเมื่อออกจากเขตกรุงโซลไปนอกจากจะไม่มีรายละเอียดชื่อสถานที่หรือชื่อถนนแล้วยังคำนวณระยะทางไม่ได้อีกต่างหาก มุมมองสตรีทวิวยิ่งไม่ต้องพูดถึงไม่มีแน่นอน
วันนี้ผมเลยมาแนะนำเว็บแอพแผนที่เกาหลีที่คนเกาหลีเค้าใช้กัน มันมีชื่อว่า Daum maps
ข้อดีของเจ้า Daum maps คือ มันมีข้อมูลรายละเอียดของสถานที่ครบถ้วน ทั้งชื่ออาคาร ชื่อถนน มีสรีทวิวให้ดู และสามารถเรียกใช้ได้ทั้งจากหน้าเว็บและแอพบน iOS, Android
ส่วนข้อเสียที่สำคัญนั่นก็คือ มันมีแต่ภาษาเกาหลีครับ คนที่อ่านภาษาเกาหลีออกคงไม่เห็นว่ามันเป็นปัญหา แต่สำหรับคนที่อ่านไม่ออกไม่ต้องกังวลไปเพราะผมจะมาสอนวิธีใช้เจ้า Daum maps เบื้องต้นให้ครับ
เมื่อเปิดหน้าเว็บ Daum maps มาจะเป็นแบบนี้
วิธีค้นหาสถานที่บนเว็บ ให้กดไปที่แท็บอันที่ 2 ตรงเมนูซ้ายบน จะมีช่องให้เราใส่ชื่อสถานที่ที่ต้องการค้นหาลงไป หากใส่อีกสถานที่ลงในช่องที่ 2 ตัวเว็บจะบอกระยะทางและวิธีเดินทางมาให้
แท็บอันที่ 3 ใช้ค้นหาสายรถเมล์
แท็บอันที่ 4 คือแผนที่รถไฟฟ้า
หากต้องการดูมุมมองแบบสตรีทวิวให้คลิกที่ปุ่มนี้
สำหรับแอพ Daum maps จะหน้าตาเป็นแบบนี้
การจะค้นหาสถานที่บนแอพนั้นก็ไม่ยาก แค่พิมพ์ชื่อสถานที่ลงไปที่ช่องค้นหาด้านบนก็เรียบร้อยแล้ว
หากต้องการหาระยะทางระหว่าง 2 ที่ให้มาที่หน้านี้
หากต้องการดูมุมมองสตรีทวิวให้กดที่ปุ่มรูปกล้องเว็บแคมบริเวณมุมขวาบน
นอกจากที่ผมบอกมา Daum maps ยังสามารถหาสายรถเมล์ เส้นทางรถไฟฟ้า และอื่นๆได้อีกเพียบ ลองเล่นดูแปปเดียวก็ใช้คล่องแล้วครับ
หมายเหตุ ชื่อสถานที่ที่จะค้นหาควรเป็นภาษาเกาหลี ผมใช้วิธีเอาชื่อภาษาไทยหรืออังกฤษไปค้นหาในกูเกิลก่อนแล้วก็อปปี้ชื่อในภาษาเกาหลีมาค้นหาใน Daum Maps อีกที
เว็บสำหรับเปิดในเบราว์เซอร์
http://map.daum.net/
แอพ Daum Maps บน Android
https://play.google.com/store/apps/details?id=net.daum.android.map&hl=th
แอพ Daum Maps บน iOS
https://itunes.apple.com/th/app/da-eum-jido-gilchajgi-jihacheol/id304608425?mt=8
หลายท่านที่เคยไปเที่ยวเกาหลีหรือกำลังวางแผนว่าจะไป คงทราบดีว่าเว็บหรือแอพพลิเคชั่นแผนที่ของเกาหลี มันช่างมีข้อมูลน้อยซะเหลือเกินไม่ว่าจะเป็น Google maps หรือ Apple maps โดยเฉพาะเมื่อออกจากเขตกรุงโซลไปนอกจากจะไม่มีรายละเอียดชื่อสถานที่หรือชื่อถนนแล้วยังคำนวณระยะทางไม่ได้อีกต่างหาก มุมมองสตรีทวิวยิ่งไม่ต้องพูดถึงไม่มีแน่นอน
วันนี้ผมเลยมาแนะนำเว็บแอพแผนที่เกาหลีที่คนเกาหลีเค้าใช้กัน มันมีชื่อว่า Daum maps
ข้อดีของเจ้า Daum maps คือ มันมีข้อมูลรายละเอียดของสถานที่ครบถ้วน ทั้งชื่ออาคาร ชื่อถนน มีสรีทวิวให้ดู และสามารถเรียกใช้ได้ทั้งจากหน้าเว็บและแอพบน iOS, Android
ส่วนข้อเสียที่สำคัญนั่นก็คือ มันมีแต่ภาษาเกาหลีครับ คนที่อ่านภาษาเกาหลีออกคงไม่เห็นว่ามันเป็นปัญหา แต่สำหรับคนที่อ่านไม่ออกไม่ต้องกังวลไปเพราะผมจะมาสอนวิธีใช้เจ้า Daum maps เบื้องต้นให้ครับ
เมื่อเปิดหน้าเว็บ Daum maps มาจะเป็นแบบนี้
การใช้งานจะคล้ายกับกูเกิลแมพ ทั้งการคลิกขวาปักหมุด การดับเบิลคลิกที่ชื่อสถานที่เพื่อดูข้อมูล
วิธีค้นหาสถานที่บนเว็บ ให้กดไปที่แท็บอันที่ 2 ตรงเมนูซ้ายบน จะมีช่องให้เราใส่ชื่อสถานที่ที่ต้องการค้นหาลงไป หากใส่อีกสถานที่ลงในช่องที่ 2 ตัวเว็บจะบอกระยะทางและวิธีเดินทางมาให้
แท็บอันที่ 4 คือแผนที่รถไฟฟ้า
หากต้องการดูมุมมองแบบสตรีทวิวให้คลิกที่ปุ่มนี้
สำหรับแอพ Daum maps จะหน้าตาเป็นแบบนี้
การจะค้นหาสถานที่บนแอพนั้นก็ไม่ยาก แค่พิมพ์ชื่อสถานที่ลงไปที่ช่องค้นหาด้านบนก็เรียบร้อยแล้ว
หากต้องการหาระยะทางระหว่าง 2 ที่ให้มาที่หน้านี้
หากต้องการดูมุมมองสตรีทวิวให้กดที่ปุ่มรูปกล้องเว็บแคมบริเวณมุมขวาบน
นอกจากที่ผมบอกมา Daum maps ยังสามารถหาสายรถเมล์ เส้นทางรถไฟฟ้า และอื่นๆได้อีกเพียบ ลองเล่นดูแปปเดียวก็ใช้คล่องแล้วครับ
เว็บสำหรับเปิดในเบราว์เซอร์
http://map.daum.net/
แอพ Daum Maps บน Android
https://play.google.com/store/apps/details?id=net.daum.android.map&hl=th
แอพ Daum Maps บน iOS
https://itunes.apple.com/th/app/da-eum-jido-gilchajgi-jihacheol/id304608425?mt=8
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)